今年の目標は10％成長 焦点は電気自動車（EV）産業

デルタ・エレクトロニクス（タイランド）は、タイで30年を超える事業歴を持つ。電気・熱制御関連商品の製造からスタートし、30年間、デルタは電気電子機材の製造・販売で業績を伸ばしてきた。イノベーションをはじめ事業面での表彰、受賞も数知れない。そして同社は組織改革の結果、事業をパワー・エレクトロニクス、自動化システム、インフラの３つに明確化した。

シア・センジェン社長は「当社は環境に優しく、効率の高い新技術を駆使し、十分にそれらの恩恵を受けています。当社の強みと多方面への関心は、そのままタイの技術分野の前進をサポートする役割を果たしています。特に多方面のソリューションが重要です。例えば、自動化システム、データセンター、EV、再生可能エネルギー、エネルギーマネジメントシステムなどです。これらのすべてが政府のタイランド4.0政策の進行方向に一致しています」。

デルタは長らく生産ラインにおける自動化システムのリーディング・カンパニーの地位にある。例えば遊星歯車機構や、複雑な制御装置、ロボットシステムなど、同社の世界レベルのソリューションには、弾力性に富んだマルチタスキングのインテリジェントな生産ライン、多品種の製品の生産が可能なラインにおいて、最も充実したシステムを実現している。また、6軸ロボットのDRVシリーズは2018年に権威あるiFデザイン賞を受賞し、世界的に認められている。

シア社長は「実際、デルタは東南アジアからオーストラリア、インドにかけてますます事業を伸ばすことになるでしょう。今年のはじめに当社はEV充電器をインドにおいて発売しました。生産工場は来年、オープンの予定です。またタイでのEV関連の業務を拡大します。これは首都圏電力公社、バンプーの自動車研究所と共同で進めます。EVチャージのソリューションの充実が狙いです」。

今年の投資計画は、スマートグリーンライトに重点を置く方針。チャチュンサオ県ウェルグロー工業団地の工場へのソーラーパネルの取付けを、さらに2メガワット分増やす。サムットプラカン県バンプー工業団地の工場においては、すでに２メガワット分のソーラーパネルを取付け、７月にさらに１メガワット分増量する。合計で５メガワット分になりが工場で使う電力の7％を占めるにすぎない。電力公社に売電するレベルには達しない。今年の第３四半期は、エネルギーマネジメントシステムの投資に力を入れる。

「この投資により、当社の工場はエネルギー4.0時代のモデル工場になるでしょう。すなわちEVチャージャー、ソーラー、エネルギー貯蔵、スマートシティー方面がそろいます。またエネルギー省、工業省、タイ電力公社向けの研究センターの機能を発揮するでしょう。投資額は1億7,500万バーツで、1メガワット当り3,500万バーツになります。今年の目標は少なくとも製品の売上増による純利益前年比10％増です。特にEV向けのパワー・エレクトロニクス方面の製品に期待しています」。

 

เดลต้า ตั้งเป้าเติบโต 10% ปี 61 เน้นเจาะกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นจากธุรกิจที่เน้นการออกแบบและผลิตสินค้าด้านการจัดการพลังงานและความร้อน ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เดลต้ายกระดับความสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  และได้รับรางวัลมากมายด้านนวัตกรรมและการดำเนินธุรกิจ โดยเดลต้า ประเทศไทย ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเป็นสามด้านด้วยกัน ได้แก่ พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติ และโครงสร้างพื้นฐาน

นายเซีย เชน เยน ประธานบริหารบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า เดลต้าอยู่ในฐานะที่จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันจุดเด่นและความสนใจที่หลากหลายของเดลต้าช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีให้กับประเทศไทยได้อย่างชัดเจนจากการที่เดลต้าให้ความสำคัญกับโซลูชั่นต่าง ๆ ได้แก่ ระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และระบบจัดเก็บพลังงาน ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล

เดลต้า ประเทศไทย เป็นผู้นำด้านระบบอัตโนมัติมาอย่างยาวนาน โดยมีผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในสายการผลิต เช่น ชุดเฟืองแพลนเนตตารี่เพิ่มความเร็วรอบและอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ รวมถึงระบบที่ซับซ้อน และระบบเครื่องจักรที่ปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์  โดยหนึ่งในโซลูชั่นระดับโลกของเดลต้า ได้แก่ สายการผลิตฉัจฉริยะแบบมัลติทาสกิ้งที่มีความยืดหยุ่นสูง เป็นระบบบูรณาการที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์หลายรายการได้อย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในองค์ประกอบเฉพราะในระบบนี้คือ หุ่นยนต์ข้อต่อแบบหกแกน DRV ซีรีส์ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วยรางวัล iF Desingn Award ปี 2561 ทั้งนี้เดลต้า ประเทศไทย ได้ขยายธุรกิจระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศอินเดีย

นายเซีย เชน เยน กล่าวต่อไปว่า เมื่อต้นปีนี้ เดลต้า เปิดตัวอุปกรณ์ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบที่ประเทศอินเดีย และเปิดโรงงานผลิต ปี 2562   อีกทั้งยังวางแผนที่จะขยายงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในกรุงเทพมหานคร และสถาบันยานยนต์ในบางปู เพื่อให้บริการโซลูชั่นสำหรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ เดลต้า มีนโยบายเน้นเรื่องของโมเดลธุรกิจด้าน smart green lite มากขึ้น จึงเตรียมลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ภายในโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพิ่มอีก 2 เมกะวัตต์ จากเดิมมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการแล้ว 2 เมกะวัตต์ และจะติดตั้งเพิ่มในกรกฎาคม อีก1 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมด 5 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วนนำมาใช้ภายในโรงงาน 7% เท่านั้น จึงไม่ขายเข้าระบบ ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 3/2561 เตรียมลงทุนในส่วนของตัวกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน เพิ่มเติม

การลงทุนด้านนี้จะส่งผลให้บริษัทเป็นต้นแบบโรงงานด้านการใช้พลังงานที่เป็น energy 4.0 ประกอบไปด้วย EV charger, sola, energy storage, smart city และเป็นศูนย์ศึกษาให้กับกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยทั้งหมดใช้งบฯลงทุนประมาณ 175 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 35 ล้านบาท/1 เมกะวัตต์”

อย่างไรก็ตาม เดลต้า ประเทศไทยคาดว่า กำไรสุทธิปี 61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่เติบโต โดยเฉพราะผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า นายเซีย เชน เยน กล่าวทิ้งท้าย