ライスバディーのブランドでスナック市場参入　5,000万バーツの販促で年率30％増を目標

ライスバディー・ブランドのスナック米菓を製造、販売するワイドフェイスフードは、5,000万バーツを販促に投入して米100％の健康に良い米菓を押し出し、年率30％増の成長を目指す。すでに世界10カ国に輸出され、オーストラリアとニュージーランドでは米菓市場のトップを走っているという。

ワイドフェイスフードのオリヴァー・イェー社長は「当社は20年以上、中国と台湾で成功してきました。商品は高度な技術で生産される米菓です。タイではバンプリー工業団地に2つの工場を持っています。5つの製造ラインで月産1,500万セット、年産約13,500トンになります。2つの工場ともBRCのグレードAAを認証されています。また、グルテンフリー、ハラール、GMPの認証も得ており、タイランドトラストマーク（TTM）、EUとNOPの有機認定も受けました」と話す。

2017年、同社はチョンブリ県のヘマラート工業団地に第3工場をオープンした。敷地は34ライ、約20億バーツを投じて３フェーズまで段階的に拡張させる。中国、米国、オーストラリア、ニュージーランド、日本など世界の10カ国へ輸出する。また、バンプリーの工場はタイ市場向けの生産に移る。

オリヴァー社長は「当社の米菓は多くのブレンドで市場に出されます。マスターライスをメインに、ライスバディー、オールライト、ライスワンダー、メルロなど健康的な米菓ばかりです。味も他の米菓を足元に寄せ付けません。焼きの工程では米糠油を使って、グルテン、トランス脂肪を使わず、全体の脂肪分を10％以下に抑えます。米菓スナックではオーストラリアでシェア42％、ニュージーランドで52％のトップシェアです」と誇る。

タイ市場ではライスバディーのブランドで10種類の味を提供。今後は5,000万バーツを投じて各種の販促活動を進めるとともに、ソーシャルメディアも最大限動員する。米菓商品は4月よりトップス、グルメマーケットをはじめ有名スーパーに流通させ、第２四半期中にはビッグＣ、テスコロータス、セブンイレブンなどにも販路を拡大する。

「まずはブランドの知名度を定着させるためにあらゆる販路に流します。タイのスナック市場は400億バーツの規模ですが、初年度5億バーツの売上を目指し、次年度から年率30％増で伸びていく構想です。乾燥スナック菓子の市場で伸びる秘訣は、まず抜群の味、優れた生産工程、消費者の好感度という３つの条件を満たすこと。すべては顧客の満足と笑顔のためです」とオリヴァー社長は締めくくった。

ไวด์ เฟธ ฟู้ด ส่ง ไรซ์ บัดดี้ บุกตลาดสแน็คไทย

ทุ่ม 50 ล้านโปรโมทการตลาด หวังดันยอดโต 30% ต่อปี

บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวแผ่นอบกรอบไรซ์ บัดดี้ บุกตลาดสแน็คไทย โดยทุ่มเงิน 50 ล้านบาท โปรโมทความอร่อยได้สุขภาพ จากข้าว 100%  หวังดันยอดขายเพิ่ม 30% ต่อปี หลังส่งออกไปมากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก จนมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

คุณโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟ ธ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวแผ่นอบกรอบตรา ไรซ์ บัดดี้ กล่าวว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์ด้านตลาดขนมขบเคี้ยวในประเทศจีนและใต้หวันมานานมากกว่า 20 ปี อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่มีต้นแบบที่มีการผลิตขนมจากข้าวด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้เข้ามาเปิดโรงงานในประเทศไทยในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จำนวน 2 แห่ง โดยมีสายการผลิต 5 สาย สามารถผลิตได้ 15 ล้านชุดต่อเดือน หรือราว ๆ 13,500 ตันต่อปี ซึ่งทั้งโรงงานทั้ง 2 แห่งนี้ ได้รับการรับรองเกรด AA จาก BRC รวมถึงการได้รับรองจาก Gluten Free, Halal, GMP และยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ Thailand Quality Trust Mark EU & NOP Organic อีกด้วย

อีกทั้งในปี 2017 ที่ผ่านมา ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้เปิดโรงงานแห่งที่ 3 ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชฯ จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ 34 ไร่ ด้วยเม็ดเงินการลงทุนไป  3 เฟส  ประมาณ 2,000 ล้านบาท  ทั้งนี้กำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจะรองรับการเติบโตของต่างประเทศใน จีน, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น และอื่น ๆ ร่วม 10 ประเทศทั่วโลก ส่วนโรงงานเดิมที่บางพลี จะรองรับตลาดในประเทศไทย

คุณโอลิเวอร์ กล่าวต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีหลากหลายแบรนด์ โดยแต่ละแบรนด์จะอยู่ภายใต้แบรนด์แม่ Master Rice ไม่ว่าจะเป็น Rise Buddy, Allright, Rice wonder และ Mello โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์จะมีลักษณะเป็นขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพที่มีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร มีความบาง อีกทั้งยังใช้กรรมวิธีอบ ใช้น้ำมันรำข้าว ปราศจากกลูเตน ไร้ไขมันทรานส์ และมีไขมันน้อยกว่า 10%  การันตรียอดขายอันดับ 1 จากมูลค่าส่วนแบ่งการตลาด Rice Snack 42% ในออสเตรเลีย และ 52% ในนิวซีแลนด์

สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ จะใช้ Rise Buddy ผลิตภัณฑ์ข้าวแผ่นอบกรอบซึ่งมีให้เลือกถึง  10 รสชาติ ในการบุกตลาดในไทยครั้งนี้  โดยจะใช้เงินในการลงทุนกว่า 50 ล้าน ในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมตลาดต่าง ๆ รวมถึงช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียวมีเดีย จากนั้นผลิตภัณฑ์จะเริ่มออกวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2019 ที่ห้างและร้านค้าปลีกอย่าง Tops, Gourmet Market และซุปเปอร์ม่ร์เก็ตชั้นนำในประเทศไทย ตามด้วยวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบในปลาย Q2 ที่ Big C, Tesco Lotus และ 7-ELEVEN ต่อไป

โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการกระจายสินค้าออย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ซึ่งวางเป้าหมายว่าจะเข้าไปเป็นหนึ่งในคู่แข่งตลาดสแน็คไทยที่มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท  โดยหวังจะมียอดดขายในปีแรก 500 ล้านบาท พร้อมเพิ่มขึ้น 30% ต่อเนื่องทุกปี พร้อมก้าวไปสู่แบรนด์และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของอุตสาหกรรมอาหารและขนมขบเคี้ยว ที่มีความเป็นเลิศ 3 ประการ ได้แก่ รสชาติเป็นเลิศ มีกระบวนการผลิตอย่างเป็นเลิศ และให้ความรู้สึกที่ดีเลิศ เพื่อตอบสนองรอยยิ้มและความพอใจของลูกค้าให้ดีที่สุด คุณโอลิเวอร์ กล่าวทิ้งท้าย