GO!GO! タイローカル工場
第37回 接着技術向上 Henkel(Thailand)Co., Ltd.
スマートファクトリーで生産性向 環境に優しく生産コストも削減
ヘンケル(タイランド)は高い技術力を持つドイツ系の接着剤メーカー。スマートファクトリーを焦点にタイランド4.0を進める路線を採り、チョンブリ県のアマタシティチョンブリ工業団地で効率の良い工場運営をしている。環境に優しく、なおかつコストを削減。安全向上が経営理念となっている。
ヘンケル(タイランド)のイサラー・カセムセート接着技術工場長は「当社のスマートファクトリーではパッケージング、消費材用接着剤、自動車、金属処理、エレクトロニクス関連用品、建設業用品など7種の部門を集め、500種を超える製品を製造しています。スマートファクトリー化を進めたのは2015年のことです。接着剤工場としての全体のレベルアップを図り、タイランド4.0を進める具体策としてスマートファクトリー化を選択しました。環境に優しく生産効率を上げるのが狙いです。生産効率と品質のさらなる向上、コストの削減、リードタイムの短縮、エネルギー節約、天然資源の保護も合わせて追求しています。また原材料の歩留まりを良くして無駄をなくす努力も続けています」と語る。
スマートファクトリーの成果は、まず環境への影響の低下をもたらした。工場は真に環境に優しい工場として定評を得ると共に、2018年の生産コストは前年比12%減という成果を挙げることができた。また330万時間無事故の操業という記録も残しました。
「もちろん従業員はきちんと休んでおります。働き方のスマート化は当社の新たな誇りです。それに加えて、スマートファクトリー化によって事業の永続性が見えるようになったことですね。2018年のエネルギー使用は前年比17%減となりました。二酸化炭素の放出が16%減、3年前と比べて廃棄物が46%、廃水も20%減りました」。
スマートファクトリーでは生産工程全体がデジタル化された。原材料管理、生産工程、製品管理に至るまで、一貫してデジタル技術が導入された。コンピュータによるデータの集中管理にデータ分析が加わり、弾力的かつ効率の高い生産が保障される。顧客のニーズを満たす精度がいよいよ高くなった。従業員は高いレベルを求められるため、経営組織の新たな文化をリーン生産方式によって構築しなければならない。
「当社は従業員の安全とプロとしての実力養成を柱に、経営組織の新たな文化を構築し、根付かせることを目指しています。2022年まで事故ゼロを続けることを目標に、安全操業を行っています。安全・衛生・環境が日々の主要な活動理念となります。全体的なリスクの予想、データの収集と分析、機械設備の安全化を従業員の手で進めるプロジェクト、安全関連のデータの取り方、読み方の訓練をはじめとする安全のプロとしての従業員の育成、安全性の追求からエネルギー節減、廃水の低減、天然資源の保護という副次効果も得られます」。
アマタシティチョンブリ工業団地の工場ではロックタイト、テクノメルト、テロソンなどのブランドの産業向け製品の生産が主。接着性、耐薬品性の高い製品が得意。ISO9001、ISO14001、OHSAS18001などの認証も取得。東南アジアの顧客からは高い評価と揺るぎない信頼を得ている。
ヘンケル(タイランド)はタイでは接着技術およびビューティーケアの2つの事業を手掛けている。タイには工場が3カ所あり、接着技術の工場が2カ所、いずれもスマートファクトリーで、ビューティーケア方面の工場もチョンブリ県にある。
เฮงเค็ล ยกระดับการผลิตด้วย Smart Factory เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และเทคโนโลยีกาวชั้นนำจากประเทศเยอรมนี มุ่งพัฒนาธุรกิจสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการนำนวัตกรรมการผลิตแบบ Smart Factory มาใช้ในกระบวนการผลิตที่โรงงานเทคโนโลยีกาว นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี โดยการผลิตแบบ Smart Factory สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง
นายอิศรา เกษมเศรษฐ ผู้จัดการโรงงานผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาว บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวได้กล่าวถึงภาพรวมของโรงงานเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลว่า ปัจจุบันโรงงานเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยโรงงานแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตสินค้าเทคโนโลยีกาวกว่า 500 ชนิด สำหรับใช้กับอุตสาหกรรม 7 ประเภท อาทิ กาวบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค กาวยานยนต์และโลหะ กาวเพื่อผู้บริโภค ช่างฝีมือ และงานก่อสร้าง และกาวอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และเพื่อเป็นการยกระดับกระบวนการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทางเฮงเค็ลจึงได้นำเทคโนโลยี Smart Factory มาใช้กับโรงงานเทคโนโลยีกาว เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“เมื่อปี พ.ศ. 2558 เฮงเค็ลได้ยกระดับการผลิตด้วยการใช้เทคโนโลยี Smart Factory และพัฒนาโรงงานไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยได้มีการนำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิต รวมถึงช่วยลดต้นทุน และร่นระยะเวลาในการผลิตสินค้า รวมทั้งลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงส่งผลให้ปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิตลดลง
ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีระบบ Smart Factory มาใช้ในกระบวนการผลิตยังมีส่วนช่วยในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจึงทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยเมื่อปี พ.ศ. 2561 โรงงานของเรามีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงจากปี พ.ศ. 2560 มากถึง 12% และมีการทำงานติดต่อกันมากกว่า 3,300,000 ชั่วโมง หรือ 5,000 วัน โดยไม่มีอุบัติเหตุที่ทำให้พนักงานต้องหยุดงาน ซึ่งเราภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นและยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานต่อไป
นอกจากนี้ การนำระบบ Smart Factory มาใช้งาน ได้สร้างความสำเร็จด้านความยั่งยืนอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี พ.ศ. 2561 โรงงานสามารถลดการใช้พลังงานได้ 17% ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 16% และลดของเสียในระบบ 46% เมื่อเทียบกับปี 2555 อีกทั้งการใช้น้ำและน้ำเสียในระบบยังลดลงถึง 20% อีกด้วย”
นายอิศรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบ Smart Factory เป็นการทำให้กระบวนการผลิตทั้งหมดเป็นรูปแบบดิจิทัล ตั้งแต่การจัดการวัตถุดิบ การผลิต จนถึงสินค้าที่ผลิตแล้วเสร็จ โดยมีการจัดการข้อมูลทั้งระบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์และวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบ Data Analytics ทำให้ประสิทธิในการผลิตสูงขึ้นและมีความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำงานในรูปแบบ Smart Factory มีประสิทธิภาพ คือ พนักงาน ดังนั้น เฮงเค็ลจึงได้การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้พนักงานมีส่วนร่วมและเพิ่มทักษะในการทำงานด้วยระบบ Lean Manufacturing
“เฮงเค็ล มีความมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วยการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงาน โดยคาดหวังที่จะสร้างระบบการทำงานที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ พร้อมทั้งตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2565 บริษัทแห่งนี้จะประสบความสำเร็จในการสร้างความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินมาตรการเชิงรุก เช่น มีการตรวจสอบความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (SHE) เป็นประจำ มีการประเมินกระบวนการที่มีความเสี่ยงอย่างครอบคลุม รวมทั้งประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงในการทำงาน สร้างความตระหนักให้กับพนักงาน มีโครงการปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งมีการฝึกอบรมและให้ข้อมูลข่าวสารด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการผลิตและเครื่องจักรเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน น้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ
ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงงานผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาวที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เป็นโรงงานผลิตกาวภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น Loctite, Technomelt และ Teroson โดยเป็นฐานการผลิตสินค้าประเภทกาวเพื่ออุตสาหกรรมมากกว่า 500 รายการ ซึ่งในกระบวนการผลิตมีการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างและหลากหลาย เช่น เทคโนโลยีการผลิตกาว ผลิตภัณฑ์กันซึม และเคมีภัณฑ์เพื่อการเตรียมพื้นผิว สำหรับลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโรงงานแห่งนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001 และ OHSAS 18001”
สำหรับบริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 2 ธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) และกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) โดยมีโรงงานทั้งสิ้น 3 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ โรงงานเทคโนโลยีกาว 2 แห่ง ที่จังหวัดสมุทรปราการและชลบุรี และโรงงานผลิตสินค้าบิวตี้แคร์ อีก 1 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรี